สายพานบั้ง

สายพานบั้ง (Pattern Belt)

1.คำนำ (Introduction)

วันนี้ 23 เมษายน 2558 บริษัท คอนเวเยอร์ไกด์ จำกัด (Conveyor Guide Co., Ltd.) ตามเจตนาเดิม มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็จะแบ่งปันเรื่องดีๆที่เรามีความรู้มาฝากท่านผู้อ่าน วันนี้จะมาแชร์เรื่องสายพานที่มีการใช้งานในลักษณะพิเศษอีกชนิดหนึ่ง นั่นคือ สายพานบั้ง (Pattern Belt) หรือบางครั้งก็เรียกว่า สายพาน V shape บางครั้งเรียก สายพาน Chevron และอีกบ่อยครั้งหลายคนเรียกตามลักษณะภายนอกที่เห็นสันยาง(Pattern) เป็นซี่ๆหล่อบนสายพานเรียบทำมุมคล้ายก้างปลาจึงเรียก อีกชื่อหนึ่งว่าสายพานก้างปลา สายพานประเภทนี้ภาษาอังกฤษเรียกรวมๆกันว่า Pattern Belt หรือสายพานที่มีสันลวดลายบนผิวสายพาน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลวดลายของบั้งจะมีรูปร่างแปลกประหลาดต่างๆกันตามที่ผู้ผลิตแต่ละรายทำ Mold ขึ้นมา แต่จุดประสงค์ของการใช้งานสายพานประเภทนี้จะใช้ในกรณีที่ต้องการลำเลียงวัสดุขึ้นในมุมเอียงสูงจากพื้นในแนวราบ ซึ่งสายพานหน้าเรียบธรรมดาไม่สามารถลำเลียงวัสดุขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากวัสดุจะไหลกลับ ที่นี่บริษัท คอนเวเยอร์ไกด์ จำกัด (Conveyor Guide Co., Ltd.) เราสรรหาสายพานบั้งทุกประเภททั้งบั้งสูงน้อย ถึงสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเน้น สายพานบั้งที่มี บั้งสูงมากๆ ขนวัสดุได้ในมุมเอียงสูงมากๆ และที่หาซื้อได้ลำบากในประเทศไทยเรา หรือซื้อได้ด้วยราคาแพง เรามีสายพานบั้งทุกระดับของคุณภาพไม่ว่าจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เอเชีย ให้เลือกในราคาที่ยุติธรรม เลือกเอาให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเหมาะสมกับเงินในกระเป๋าของท่าน สินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุด ราคาแพงที่สุด ไม่จำเป็นว่าจะดีจะเหมาะสมกับความคุ้มค่าของการใช้งานของแต่ละท่านเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวิเคราะห์ในแง่เศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวกับผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีที่สุด หากท่านต้องการใช้สายพานบั้ง บอกลักษณะการใช้งานของท่านให้เราทราบ เราจะช่วยวิเคราะห์ แนะนำให้ด้วยเหตุผลตรงไปตรงมา เรื่องอย่างนี้เป็นวิทยาศาสตร์ ใครๆก็ทำความเข้าใจกันได้หากได้รับข้อมูลที่เพียงพอ ท่านจะเข้าใจและมีความมั่นใจในการเลือกใช้แน่นอน เราเพียงแต่ชี้แนะ เราเชื่อเสมอว่าลูกค้ามีวิจารณญาณที่ดีและฉลาดมากเกินกว่าผู้จำหน่ายอย่างเราจะสามารถชักจูงให้เชื่อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีใครรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมในการใช้งานของท่านมากกว่าตัวท่านเอง เรามีจุดประสงค์แบ่งปันสิ่งดีๆให้ลูกค้าหรือผู้มาเยี่ยมเยือน website ของเราแล้วนำความรู้เหล่านั้น มาใช้ให้เป็นประโยชน์

ตัวอย่าง สายพานบั้ง (Pattern Belt) ที่มีลายต่างๆกัน


ลำเลียงทราย



ลำเลียงกรวดหรือหินที่ต้องการระบายน้ำ



ลำเลียง Package ทั่วไป เช่นสินค้า กล่อง ก้อน หรือเป็นมัด



2.ลักษณะ (Feature) โครงสร้างของสายพานบั้ง (Pattern Belt)

เพื่อให้สายพานมีความสามารถลำเลียงวัสดุในแนวเอียงให้ได้มุมสูงขึ้น ผู้ผลิตสายพานจึงได้พัฒนาสายพานแบบเรียบธรรมดาให้มีความสามารถมากขึ้น โดยการมีหล่อสันยาง(เรียกว่าหล่อบั้ง-Cleat/Pattern) ให้มีความสูงหรือเรียกว่าหล่อ Cleat/Pattern ยางที่มีความสูงจากผิวหน้าสายพานแบบเรียบเดิม ตั้งแต่ 5 mm. จนถึง 32 mm. หล่อติดกับสายพานยางดำหน้าเรียบ(Base Belt) มีจุดประสงค์ให้สันยาง(บั้ง-Cleat/Pattern) ช่วยเป็นตัวกันหรือ โอบและยึดวัสดุ (เป็นการ Stabilizeมุมกองของวัสดุ) ไม่ให้ไหลกลับลงมาด้านล่างขณะสายพานลำเลียงวัสดุ โครงสร้างของสายพานบั้ง หรือสายพานก้างปลา ประกอบด้วย Base Belt ที่มีชั้นผ้าใบ ยางบน-ยางล่าง (top cover- bottom cover) เหมือนสายพานยางดำแบบMultiply Ply ธรรมดาแต่ได้หล่อยางพิเศษเป็นสันเพิ่มความสูงจากผิวสายพานปกติ เรียกว่า บั้ง ติดข้างบนหน้าสายพาน (Top Cover) ส่วนลวดลายของบั้งแบ่งออกได้เป็นหลายรูปแบบตามแต่ผู้ผลิตแต่ละรายที่คิดค้นขึ้นมา เช่น แบบคล้ายตัว V เรียก V-Type หรือ คล้ายตัว U เรียก U-Type คล้ายตัว C เรียก C-Type คล้ายตัว Y เรียก Y-Type เป็นต้น เพื่อการใช้งานเหมาะสมสำหรับ สิ่งแวดล้อม (เปียก-ชื้น-แห้ง-ร้อน-มีน้ำ) และการลำเลียงวัสดุประเภทต่างๆกันไป (ก้อนใหญ่-เม็ดเล็ก-เป็นผง-คม-เป็นมัด-เป็นก้อน-เป็นกล่อง)

ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการเลือก สายพานบั้ง เริ่มที่ตัว Base belt ยังเป็นสายพานยางดำแบบธรรมดาไม่มีอะไรแตกต่าง โดยเลือกเกรด cover rubber ก็เลือกเกรดตามการใช้งาน เช่น เกรดทนสึก เกรดทนร้อน ทนน้ำมัน หรือเกรดทนสารเคมีตามสิ่งแวดล้อมที่สายพานต้องทำงานร่วมด้วย แต่ที่สำคัญคือตัวบั้ง (Cleat) ต้องหล่อเป็นเนื้อเดียวกันกลับBase belt เพื่อให้บั้งยึดกับตัวสายพานมีความแข็งแรงทั้งแผ่นเหมือนๆกัน


3. ข้อสังเกตระหว่างสายพานบั้ง(Pattern Belt) กับสายพานเรียบธรรมดา (Multiply Belt)

ข้อที่ 1 สายพานบั้งสามารถลำเลียงวัสดุขึ้นได้ในมุมที่สูงขึ้นกว่า สายพานหน้าเรียบตั้งแต่ 2 ถึง 6 องศา ในเงื่อนไขเดียวกัน ขึ้นอยู่กับ ความสูงของตัวบั้ง โดยความสูงของตัวบั้ง จะมีผลโดยตรงกับความสามารถมากในการลำเลียงขึ้นที่สูง บั้งที่สูงกว่าย่อมสามารถลำเลียงวัสดุขึ้นได้ในมุมที่มากกว่า


สายพานบั้งใช้งานกับ การขนใยปาล์ม ในแนวเอียง


ข้อที่ 2 สายพานบั้ง มีทั้งประเภทมีขอบข้างและไม่มีขอบข้าง ปรกติแล้วสามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่กรณีที่ต้องการให้ของเหลวหรือน้ำไหลออกหรือติดตั้งยางกันรั่ว(Skirt Rubber) ให้ใช้สายพานบั้งแบบ Open V Shape แบบแว้นขอบข้าง


สายพานบั้งแบบ Close V-Shape มีขอบข้าง



สายพานบั้งแบบOpen V-Shape แบบเว้นขอบข้าง


ข้อที่ 3 เป็นเรื่องที่ต้องระวังเกี่ยวกับความเสียหายของบั้ง เนื่องจากตัวบั้งอยู่สูงกว่าหน้าสายพานหน้าเรียบดังนั้นในด้าน Return ต้องใช้ลูกกลิ้งรองรับในระยะที่ถี่กว่าสายพานหน้าเรียบเพราะเมื่อสายพานบั้งตกท้องช้างมากขณะสายพานทำงานจะทำให้ตัวบั้งกระแทกกับลูกกลิ้ง อย่างรุนแรงทำให้ตัวบั้งเสียหายได้ ในการออกแบบระบบสายพานลำเลียง อย่าออกแบบให้สายพานต้องพับ(Warp)ในมุมที่มากเกินไป เช่น อย่าออกแบบลูกกลิ้ง Snub ใกล้กันเกินไปกับตัวDrive จนทำให้มุมโอบมีค่าสูงมาก ทำให้สายพานเสียหายได้เมื่อใช้งานมาได้ช่วงเวลาหนึ่ง ความยืดหยุ่นของยางเริ่มมีน้อยลงบั้งจะหลุดหรือแตก และบางครั้งจะปรากฏรอยแตกด้าน Bottom Cover เนื่องจากขณะสายพานวิ่งผ่านมุมโอบที่สูงๆ ดังภาพข้างล่างได้


สายพานวิ่งผ่านมุมโอบที่สูงๆ ทำให้เกิดรอยแตกที่ด้านล่างสายพานได้ง่าย


ข้อที่ 4 รูปร่างลักษณะ (Profile) ของบั้ง บางรูปแบบบั้งจะเป็นแบบปิดคือตัวบั้งจะต่อเนื่องกันไม่มีช่องว่างให้ของเหลวไหลออกไป รูปบั้งแบบนี้เหมาะสำหรับลำเลียงวัสดุที่เป็นก้อน แห้งไม่มีน้ำ เช่น กรวด หินบด ทรายแห้ง บางรูปแบบก็จะมีช่องว่างระหว่างบั้งเพื่อให้ของเหลวหรือน้ำไหลผ่านได้ เหมาะสำหรับลำเลียงวัสดุที่เปียกและต้องการระบายน้ำออกขณะลำเลียง


ข้อที่ 5 มาตรฐานการผลิต Cover Rubber สามารถผลิตได้ตามทุกมาตรฐาน เช่น Din 22102 –BS 490-AS1332 –RMA-JIS 6322-SABS117 3 และมาตรฐานอื่นๆ

ข้อที่ 6 การทำความสะอาดสายพานบั้ง ต้องใช้ Belt Cleaner ชนิดเป็นแปรงปัดที่มีทั้งใช้มอเตอร์เป็นตัวขับ หรือไม่ใช้มอเตอร์แต่จะใช้การหมุนของสายพานเป็นตัวทำให้กลไกทำให้แปรงหมุน จะใช้ Belt Cleaner แบบที่มีใบPolyurethane หรือ ที่ใช้กับสายพานเรียบแบบธรรมดาไม่ได้


แปรงปัด(Brush Cleaner) ชนิดใช้มอเตอร์เป็นต้นกำลัง


4. การเลือกสายพานบั้ง (Pattern Belt) ให้เหมาะสมกับการใช้งาน


การเลือกใช้สายพานบั้งให้เหมาะสมกับการใช้งานมีปัจจัยที่นำมา พิจารณาได้แก่

ประการที่หนึ่ง ประเภทหรือ ชนิดของวัสดุที่ลำเลียง เช่น เป็นผง เป็นก้อน ไหลได้ง่าย เป็นหีบ เป็นกระสอบ หรือ หลวม แน่น เปียกชื้น เหนียวหรือไม่ เป็นต้น

ประการที่สอง การวาง Lay out ของ Conveyor ต้องให้พอเหมาะ มีมุมชันกี่องศา ทั้งนี้ต้องเลือกให้เหมาะสมไม่ให้เกินมุมกอง ธรรมชาติของวัสดุ มิฉะนั้นวัสดุจะไหลกลับ

ประการที่สาม คือ ความสูงของบั้ง (Cleat) จะสูงมากน้อยขึ้นอยู่กับ ชนิด ลักษณะ ขนาด และคุณสมบัติของวัสดุ และการวาง Lay out ของ Conveyor ว่าต้องการมุมชันกี่องศา และบางกรณีต้องนำความเร็วของ Conveyor มาพิจารณาด้วย

ตารางข้างบนนี้ให้มาเพื่อเป็น guideline สำหรับเลือกสายพานบั้งที่ถูกต้องเบื้องต้นยกตัวอย่างมุมเอียงสูงสุดที่สามารถลำเลียงวัสดุขึ้นได้แปรผันโดยตรงกับความสูงของบั้ง (Cleat) เช่น ถ้าวัสดุมีลักษณะเป็นผง ความสูงของบั้ง(Cleat) 14 mm. จะสามารถลำเลียงวัสดุขึ้นสูงได้ประมาณ 25 องศาแต่ถ้าความสูงของบั้ง (Cleat) เท่ากับ 32 mm. จะสามารถลำเลียงได้สูงเพิ่มขึ้นเป็น 30 องศา อีกหนึ่งตัวอย่างถ้าวัสดุเป็นประเภทบรรจุภัณฑ์ (Package) เช่น เป็นกล่อง เป็นมัด เป็นก้อน ถ้าความสูงของบั้ง (Cleat) 14 mm. มุมเอียงของสายพานลำเลียงทำได้จะอยู่ระหว่าง 30 ถึง 35 องศา ถ้าความสูงของบั้ง (Cleat) 32 mm. จะลำเลียงได้สูงถึง 35 ถึง 40 องศาเป็นต้น

สายพานบั้งนี้ถือว่าเป็นสายพานประเภทพิเศษดังนั้นราคาก็จะสูง กว่าสายพานเรียบพอประมาณ เนื่องจากการผลิตที่ต้องใช้ Mold ชนิดพิเศษทำบั้ง และการสั่งซื้อสายพานบั้งแต่ละครั้งส่วนมากจะมีปริมาณน้อย แต่การเตรียมงานของผู้ผลิตจะมีค่าใช้จ่ายคงที่ไม่ว่าจะผลิตมากหรือน้อยก็ตาม ดังนั้นจะเห็นว่าราคาของสายพานบั้งจะมีราคาต่อหน่วยแพงกว่าสายพานยางดำแบบเรียบเสมอ ยิ่งผู้ซื้อถามว่าราคาสายพานต่อเมตร เท่าไหร่ ก็ขอให้เห็นใจผู้ขายหน่อยนะครับเพราะมันตอบได้ยากมากขึ้นอยู่หลายปัจจัยเหลือเกิน ปัจจัยหลักได้แก่ปริมาณการสั่งซื้อครับ ว่า มากหรือน้อย นอกจากนั้น Specification ของสายพานยังแตกต่างกันไป ไม่เคยเหมือนกันเลยสักครั้ง ดังนั้นราคาต่อเมตรมันจะประเมินได้ไม่ง่ายหรอกครับ บริษัท คอนเวเยอร์ไกด์ จำกัด (Conveyor Guide Co., Ltd.) มีสายพานที่มีความสูงของบั้ง(Cleat) ถึง 32 mm. และมีรูปแบบของบั้ง (Cleat) ให้เลือกตามความเหมาะสมของของ application ลองเข้ามาศึกษาดูตามรายละเอียดข้างล่างได้เลย

สำหรับการใช้งานสายพานบั้งใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ในเหมืองแร่ ในโรงหล่อทราย ในอุตสาหกรรมการเกษตร ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ลำเลียงชีวะมวล(Bio Mass) เช่น ใยปาล์ม wood chip ในโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในท่าเรือ ในโรงโม่ โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ และในอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมาย สรุปได้ง่ายๆว่าหากอุตสาหกรรมใดต้องการลำเลียงวัสดุขึ้นในแนวเอียงมากกว่าปกติ สายพานบั้งก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีเสมอ


5.การสั่งซื้อสายพาน

การสั่งซื้อก็เหมือนกันสั่งซื้อสายพานยางดำหน้าเรียบแบบธรรมดาที่ต่างกันเป็นพิเศษ คือต้องแจ้งว่าต้องการสายพานบั้งเป็นรูปแบบไหน (V-U-C-Y Shape) และต้องการความสูงของบั้งเท่าไหร่ (5-10-14-16-25-32 mm.) ยกตัวอย่างเช่นต้องการซื้อสายพายบั้ง เกรด DIN Y แบบ V-shape หน้ากว้าง 1000 mm. บั้งสูง 10 mm. มีผ้าใบ EP125 -4 ชั้น ยางบนหนา 4 มม.ยางล่างหนา 2 มม. ยาว 100 เมตร ต่อกลม (หรือ Endless หมายความว่าให้ต่อปลายสายพานนี้เป็นวงกลมมีความยาวรวม 100 เมตร) หรือถ้าบอกว่าตัดยาว (Open) หมายความว่าให้ตัดสายพานนี้ยาวคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยวยาว 100 เมตร เป็นต้น

ตัวอย่างคำสั่งซื้อสายพานผ้าใบที่สมบูรณ์

ต้องการซื้อสายพานบั้ง หน้ากว้าง 1000 มม. EP 125 จำนวน 4 ชั้น หนาบน 4 มม. หนาล่าง 2 มม. เกรด DIN Y ยาว 100 เมตร ตัดยาว


การระบุ Specification คำสั่งซื้อสายพานผ้าใบที่สมบูรณ์


เวลาสั่งซื้อสายพาน ผู้ซื้อต้องมีข้อมูล Specification ของสายพานผ้าใบ เอาไว้บอกให้เข้าใจตรงกัน ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดกันภายหลัง ประกอบด้วยสาระสำคัญดังนี้

1) ประเภทของสายพาน: สายพานบั้ง

2) กว้าง (Belt Width) 1000 มม .หรือหน้ากว้าง ของสายพานมีหน่วยเป็น mm.

3) EP คือ ชั้นผ้าใบรับแรงดึงมีค่า เป็น N/mm. ประกอบด้วย Polyesterในแนวยาว และ Nylonในแนวขวาง ค่า EP ปกติที่นิยมใช้กันมี EP 100,125,160,200,250 ยกตัวอย่าง EP 125 จำนวน 4 ชั้น หรือบางครั้งก็เรียกกันว่า 500/4 คือ ค่าแรงดึง ( Tensile Strength ) ที่สายพานสามารถรับได้ ในที่นี้ คือ 500 N/mm. โดยมีชั้นผ้าใบ EPทั้งหมด 4 ชั้น โดย EP แต่ละชั้นจะ มีค่าชั้นละ 125 N/mm.


ตารางเปรียบเทียบวิธีการบอกแรงดึงของสายพาน


4) 4.0 คือ ความหนาของผิวยางด้านบน (Top Cover) มีหน่วยเป็น mm. ส่วน 2.0 คือ ความหนาของผิวยางด้านล่าง (Bottom Cover) มีหน่วยเป็น mm.

5) Grade DIN-Y คือ เกรด (Grade) ของสายพานทนสึกหรอ (ดูตารางข้างล่าง) หรือระบุเป็น เกรดทนร้อน ทนไฟ ทนน้ำมัน ใช้กับอาหาร หรือบอกจุดประสงค์การใช้งานให้ผู้ขาย ให้ผู้ขายแนะนำ เลือกให้ ถ้าผู้ขายคิดไม่ออก บอกไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อ ไปหาซื้อเจ้าอื่นก็แล้วกัน เพราะถ้าเลือกได้แบบมั่วๆ ได้สายพานที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ผู้ซื้อก็จะขาดทุนครับ


ตารางแสดงเกรดสายพานแบบทนสึก


6) 100 m. คือ ความยาว (Length) ของสายพานที่ต้องการสั่งซื้อ (เมื่อคลี่ออกมาเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วเท่ากับ 100 เมตร) หรือ Endless หมายความว่าให้ต่อปลายสายพานนี้เป็นวงกลมมีความยาวรวม 100 เมตร)

7) ต้องบอกไปด้วยว่าต้องการสายพานแบบ แบบต่อกลม (Endless) หรือแบบตัดยาว (Open) เพื่อผู้ขายจะได้ผลิตให้ถูกต้องตามความต้องการ การสั่งซื้อกรณีแบบตัดยาว (Open)นี้ เป็นสายพานที่ ต้องเอาไปต่อหัวสายพานที่หน้างานจึงจะสะดวก (เสียเงินค่าต่อสายพานเพิ่ม) ถ้าหากเป็นสายพานขนาดสั้นๆ เช่น 15-30 เมตรบางครั้งก็สามารถสั่งให้ต่อกลมไป (ไม่เสียเงินค่าต่อสายพานเพิ่มแต่ต้องเสียค่าแรงเพื่อรื้อและประกอบอุปกรณ์ใน lineสายพาน) แล้วให้ช่างในโรงงานประกอบเข้าline สายพานก็ได้ งานนี้ท่านต้องประเมินเอาเองว่าแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับท่าน


6. เลือกสั่งซื้อสายพานบั้ง ตาม Code ได้ตามนี้เลยครับ


ตารางแนะนำการเลือกสายพานบั๊ง(Pattern belt)


1. Conveyor belts with Close V type profiles





2. Conveyor belts with C type profiles



3. Conveyor belts with Y type profiles


สุดท้าย บริษัท คอนเวเยอร์ไกด์ จำกัด(Conveyor Guide Co., Ltd.) ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ให้กำลังใจและอุดหนุนสินค้าของเรา เราสัญญาว่า เราจะตอบสนองท่านอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่หยุดนิ่ง เราไม่เคยทำงานลวกๆ หรือลดระดับการปฏิบัติงานตนเอง เราทราบวิธีและมีความสามารถ ที่จะสร้างความเรียบง่ายบนซับซ้อน อยากใช้เราก็ติดต่อเราครับ ง่ายนิดเดียว สงสัยสิ่งใด ส่งรายละเอียดทั้งหมดมาทาง E-mail จะสะดวกดีมากครับ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด เรายินดีให้คำปรึกษาตลอดเวลา หรือต้องการให้เราไปอบรมหรือจัดสัมมนาให้หน่วยงานบำรุงรักษาในหน่อยงานของท่านก็ได้ (มีค่าบริการนะครับ) ไม่เพียงแต่เรื่องนี้เท่านั้นนะครับ เรื่องอะไรก็ได้ที่ท่านอยากรู้เกี่ยวกับสายพานลำเลียงก็ลองติดต่อเข้ามาได้อะไรที่แบ่งๆกันได้และไม่เปลืองทรัพยากรจนเกินไปก็ยินดีรับใช้ฟรีครับ เพราะเรามี Motto การทำงานคือ ‘’Together We Share ไปด้วยกัน...เผื่อแผ่กัน’’ ครับ เราจะหาความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบลำเลียงมานำเสนออย่างสม่ำเสมอ “มีของเท่าไหร่ก็ปล่อยหมด ไม่มีกั๊ก ไม่มีดึง ไม่มีเม้ม” “ถึงแม้ว่าเราจะเดินช้า...แต่เราก็ไม่เคยหยุดเดิน” แล้วพบกันใหม่ครับขอบคุณที่ติดตาม


Visitors: 58,307