ลักษณะพื้นผิวของ Modular Belt

1.จุดประสงค์ของบทความ จุดประสงค์ของบทความนี้จะบอกว่านอกจากสายพานพลาสติกที่มีผิวลื่นๆแล้ว ยังมีการผลิตสายพานพลาสติกที่มีผิวหยาบด้วย ในกรณีที่จำเป็นจะต้องลำเลียงวัสดุขึ้นในแนวเอียงที่ต้องการพื้นผิวสัมผัสที่หยาบ มีสายพานหลายรุ่นที่สามารถติดตั้งยางบนสายพานได้ ทั้งรุ่นที่วิ่งในแนวตรงและวิ่งในแนวโค้ง ยางที่ติดตั้งบนสายพานจะทำให้สายพานมีแรงเสียดทานเพิ่มขึ้น ดังนั้นจะสามารถลำเลียงวัสดุขึ้นในแนวเอียงได้ หรือถ้าต้องลำเลียงในแนวเอียงมากๆก็สามารถติดตั้งบั๊ง (Cleat)บนสายพานได้เช่นกันเนื่องจากสายพานและพื้นผิวมีหลายชนิดหลายประเภทที่ออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะ ดังนั้นเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้นขอให้สอบถาม คอนเวเยอร์ไกด์เราจะแนะนำรุ่นที่เหมาะสมให้ท่านเอง

2.ประเภทของผิวหน้าสายพาน สายพาน Modular Belt ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานกับการลำเลียงวัสดุได้หลายหลายชนิด โดยขึ้นอยู่กับ วัสดุในการลำเลียง ลักษณะการใช้งาน มุมเอียงของการลำเลียง แนวการวิ่งของสายพาน ของการลำเลียงนั้นๆ ซึ่งจะมีการเลือกใช้ผิวหน้าของสายพาน Modular Belt ที่แตกต่างกันออกไป Conveyor Guide ขอแนะนำรูปแบบผิวหน้าของสายพาน Modular Belt เพื่อที่จะพอมี Idea ในการเลือกใช้กันครับ

ผิวหน้าของสายพาน Modular นั้นมีมากมายหลายรูปแบบแล้วแต่ผู้ผลิตนั้นๆ แต่รูปแบบผิวหน้าที่ใช้งานหลักๆ 6 รูปแบบดังนี้

- Flat Top

- Perforated Flat Top

- Flush Grid

- Raised Rib

- Grip Top

- Roller Top

2.1) Flat Top ลักษณะจะเป็นพื้นผิวแบบปิด (Open Area 0%) สามารถใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่วัสดุลำเลียงมีลักษณะเป็น Package เป็นถุง ก้อน ห่อ

Flat Top Surface

2.2) Perforated Flat Top ลักษณะโดยรวมก็จะเหมือนกับ Flat Top แต่จะมีรูหรือร่อง Slotเพื่อช่วยในการ Drain ของเหลว

Perforate Flat Top Surface

2.3) Flush Grid ออกแบบมาเพื่อการระบายน้ำและอากาศสามารถไหลผ่านได้ดีโดยปกติแล้ว Flush Grid จะมีพื้นที่เปิดมากกว่า 20% ของพื้นที่ผิวหน้า ส่วนมากจะใช้ใน Line การล้างทำความสะอาดวัสดุ การฉีดแยกสิ่งสกปรกออกจากวัสดุ Line ลดอุณหภูมิ (Cooling Line) เป็นต้น

Flush Grid Surface

2.4) Raised Rip ลักษณะเป็นสันบางๆยกขึ้นตามแนวยาวของสายพานจึงทำให้สายพานมีร่อง Slot ตามแนวยาวของสายพานในบางรุ่นจึงสามารถใส่ Finger Plate เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสายพาน เพื่อทำการเคลื่อนที่ผ่านTransfer Point เป็นไปได้อย่างราบเรียบไม่สะดุดทำให้วัสดุมีความมั่นคง (Stable) ไม่ล้มง่าย นิยมใช้ในการลำเลียง ขวดหรือกระป๋อง

Raised Rip Surface

2.5) Grip Top (Rubber on Top) คือการนำยางนำมาติดไว้ที่ผิวของสายพานทั้งแบบ Flat Top และ Flush Grid เพื่อวัตถุประสงค์ในการลำเลียงวัสดุขึ้นในแนวชันหรือเพื่อป้องกันการลื่นไถลของวัสดุในขณะลำเลียง

ติดยางบนผิว Flat Top - Flush Grid Surface

ติดยางบนผิว Flat Top - Flush Grid Surface

2.6) Roller Top (Roller on Top) Modular Belt ชนิดนี้จะมีลูกกลิ้ง (Roller) อยู่ด้านบนของสายพาน ส่วนมากสายพานประเภทนี้จะใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์หรืออีคอมเมิร์ซอยู่ใน คลังสินค้า (Warehouse) ใช้ในระบบออโตเมชั่นเป็นตัวคัดแยกสินค้าทำให้การทำงานได้รวดเร็วขึ้นรถการใช้กำลังคนไปได้มากเพื่อวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ

- เพิ่ม/ลด หรือ Storage วัสดุลำเลียง

- ช่วยจ่ายวัสดุออกด้านข้าง

- ลดกำลังคนงาน

Roller on Top ใช้ในระบบออโตเมชั่นเป็นตัวคัดแยกสินค้า(Sorter)

Roller on Topใช้ในระบบออโตเมชั่น(Automation)

2.7) Cleat fixed on Modular Belt ในกรณีที่ต้องลำเลียงสินค้าขึ้นในที่ที่ชันมากหรือสินค้ามีลักษณะทรงกลมการใช้สายพานติดยางแบบปกติอาจใช้งานไม่ได้ดีพอ ดังนั้นจึงมีทางแก้คือการติดตั้งบั้งที่มีขนาดสูงตั้งแต่ 25 มิลลิเมตรถึง 150 มิลลิเมตร เข้าไปกั้นอยู่ระหว่างสายพานทำให้วัสดุที่ลำเลียง ถูกกักอยู่ระหว่างสายพานไม่สามารถที่จะไหลลงได้

รูปแบบการใช้งานสายพานติดบั๊ง (Cleat)

3.รูปกราฟฟิกดูกันง่ายๆ Modular belt Application คงได้ทราบกันดีแล้วว่าสายพาน Modular มีผิวหน้า (Surface) รูปแบบใดกันแล้ว Conveyor Guide จะขอแนะนำว่า Surface แบบไหนลำเลียงอะไรได้บ้างหรือเป็นที่นิยมลำเลียงอะไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ

จะเห็นได้ว่าวัสดุบางตัวสามารถเลือกผิวสายพานได้หลายประเภท บางชนิดก็เลือกผิวหน้าได้เพียงแค่แบบเดียวเท่านั้น เช่น การลำเลียงรถยนต์ก็ต้องใช้ผิวหน้าแบบ Flat Top เนื่องจากต้องการความแข็งแรงและไม่ต้องให้ชิ้นส่วนใดๆของยานยนต์ตกหล่นไปในร่อง แต่ในทางกลับกันหากลำเลียงผัก ผลไม้ สามารถเลือกผิวหน้าได้ทั้ง 3 ชนิดคือ Flat Top Flush Grid และ Perforated Flat Top ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าต้องการทำความสะอาดในขณะลำเลียง มีการ Drain น้ำหรือไม่ แนวทิศทางการวิ่ง ตรงหรือโค้ง รวมถึงเรื่อง Stock และ Spare Part ด้วย